เรื่องมันเป็นงี้… สหรัฐฯ เพิ่งงัดมาตรการสุดโหด จัดเต็มภาษีนำเข้าสินค้าจากทั่วโลกแบบไม่ไว้หน้าใคร เริ่มตั้งแต่ 10% ไปจนถึงหลักสิบเปอร์เซ็นต์ปลายๆ ฟังดูเหมือนจะเท่ แต่พอเอาเข้าจริง เศรษฐกิจโลกสะเทือนแบบไม่รู้ตัว สุดท้ายแล้ว…สหรัฐฯ เองก็โดนลูกหลงเต็มๆ
บางคนอาจคิดว่า เก็บภาษีเยอะๆ แล้วรัฐบาลจะรวยขึ้นใช่มั้ย? ก็จริงแหละ แต่มันก็เหมือนยิงปืนใส่กำแพงเด้งกลับมาโดนหน้าเอง เพราะทั้งโลกก็เริ่มไม่แฮปปี้กับสหรัฐฯ แล้วมีแววว่าจะเริ่มบอยคอตต์สินค้าสหรัฐฯ กลับบ้างเหมือนกัน
นักวิเคราะห์เตือนเสียงหลง: “โลกจะถดถอยเว้ย!”
สายเศรษฐกิจไม่ได้นิ่งนอนใจ JP Morgan ออกมาฟันธงว่า ความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจทั่วโลกตอนนี้พุ่งไปที่ 60% แล้ว ทางฝั่ง Goldman Sachs ก็ไม่ได้เงียบ บอกเลยว่านโยบายของรัฐบาลทรัมป์กำลังสร้างความไม่แน่นอนสุดๆ ทั้งในเรื่องการเงิน การค้าระหว่างประเทศ รวมถึงความรู้สึกของผู้บริโภคที่เริ่มหันหลังให้สินค้าจากอเมริกา
สิงคโปร์ถึงกับปรี๊ดแตก
เขายังบอกด้วยว่า การกระทำของสหรัฐฯ ขัดกับระบบการค้าโลกที่สหรัฐฯ เป็นคนตั้งกฎเองแท้ๆ แถมยังบั่นทอนมิตรภาพกันอีก แต่สิงคโปร์ก็เลือกจะไม่สวนกลับ เพราะไม่อยากให้โลกเจอกับสงครามการค้าจริงๆ จังๆ แบบที่กำลังจะเกิดขึ้นตอนนี้
ภาษีแบบไหนก็มา! ทรัมป์ไม่แคร์เลย
เก็บภาษีตามประเทศ – เช่น จีน เม็กซิโก แคนาดา โดนกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะจีน โดนรวมๆ แล้วถึง 104% เลยทีเดียว
เก็บตามสินค้า – พวกเหล็ก อะลูมิเนียม รถยนต์ โดนไป 25% กันยกแผง
ภาษีตอบโต้ – ใครเกเร ไม่ยอมตามใจสหรัฐฯ ก็โดนบวกเพิ่มอีกแบบไม่ยั้ง
ทั้งหมดนี้ทำให้อัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นจากแค่ 2.5% กลายเป็น 16.5% ภายในปีเดียว สูงสุดตั้งแต่ปี 1937 เลยทีเดียว
ทรัมป์ก็ยังมั่นใจเต็มร้อย
นักวิจัยก็ส่ายหน้า: “รวยขึ้นจริง แต่ GDP ติดลบ!”
Tax Foundation ลองคำนวณดูแล้วว่า แม้ภาษีชุดแรกจะทำให้สหรัฐฯ ได้เงินเพิ่มถึง 1.3 ล้านล้านเหรียญฯ ใน 10 ปี แต่ GDP หดไป 0.3% ส่วนรอบใหม่ที่เริ่มเก็บเมษานี้ จะทำเงินได้อีก 1.5 ล้านล้าน แต่ GDP ก็ลดลงอีก 0.4% รวมๆ แล้วเงินเข้ารัฐเพิ่ม 2.8 ล้านล้านเหรียญฯ แต่เศรษฐกิจหดตัวไปร่วม 0.7% เลย
จีน แคนาดา ยุโรป เริ่มโต้กลับแล้วนะ
ตอนนี้มีแค่ไม่กี่ประเทศที่ออกมาสวนกลับอย่างจริงจัง ได้แก่ จีน แคนาดา และสหภาพยุโรป ซึ่งถ้ามาตรการพวกนี้เริ่มบังคับใช้กันจริงๆ เศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะโดนผลกระทบแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้
มีการประเมินว่า แค่ปี 2025 ปีเดียว สหรัฐฯ จะลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศลงไปเกือบ 8 แสนล้านเหรียญฯ ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 4 ของยอดนำเข้าทั้งหมดเลยนะ
สรุปแล้ว…ใครจะอยู่ ใครจะไป?
ศึกการค้าครั้งนี้ยังไม่จบง่ายๆ ต้องจับตาว่า สหรัฐฯ จะเจรจากับประเทศต่างๆ ยังไง จะมีประเทศไหนสวนกลับอีกรอบมั้ย หรือจะลงเอยแบบไหน เพราะจากท่าทีของทรัมป์แล้ว ดูเหมือนว่า นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น!
ที่มา : www.thaipbs.or.th